Home
ข่าวสาร
สัมมนาสรุปผล“โครงการพัฒนาประสิทธิภาพ การบริหารจัดการโลจิสติกส์ เพื่อการลดต้นทุน และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน”

สัมมนาสรุปผล“โครงการพัฒนาประสิทธิภาพ การบริหารจัดการโลจิสติกส์ เพื่อการลดต้นทุน และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน”

วันศุกร์ที่ 22 มิถุนายน 2561 เวลา 09.00 น. น.ส.สุธีรา ตะริโย รักษาราชการแทน ผอ.ศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 1 เป็น ประธานในพิธีเปิดการ สัมมนาสรุปผล“โครงการพัฒนาประ สิทธิภาพ การบริหารจัดการโลจิสติกส์ เพื่อการลดต้นทุน และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน” ณ โรงแรม วินทรีซิตี้ รีสอร์ท เชียงใหม่
น.ส.สุธีรา ตะริโย รักษาราชการแทน ผอ.ศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 1 กล่าวว่า ศูนย์ส่งเสริมอุตสาห กรรมภาคที่ 1 กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ร่วมกับ ศูนย์ความเป็นเลิศด้านการจัดการโลจิสติกส์ และโซ่อุป ทาน มช. จัดการสัมมนาสรุปผล “โครงการพัฒนาประสิทธิภาพ การบริหารจัดการโลจิสติกส์ เพื่อการลดต้นทุน และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน”
โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพการจัดการ ด้านโลจิสติกส์ภายในองค์กร และส่วนเชื่อมต่อกับโซ่อุปทานของสถานประกอบการ ของกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย ในการลดต้นทุนด้านโลจิสติกส์และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันนั้น ซึ่งงานดังกล่าวเป็นการทำงานร่วมกันระหว่างภาครัฐ ภาคอุตสาห กรรม ในการพัฒนาระบบโลจิสติกส์อุตสาหกรรมของไทย ให้มีความก้าวไกลด้วยความรู้และเครื่องมือในการเพิ่มประสิทธิภาพการทำธุรกิจ ให้สามารถก้าวเข้าสู่การแข่งขันในระดับโลกได้ โดยผ่านการดำเนินงานของโครงการต่างๆ และมีการเผยแพร่ในวงกว้าง
สำหรับศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 1 กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ในฐานะหน่วยงานหลักที่กำกับดูแลและพัฒนาส่งเสริมภาคอุตสาหกรรมการผลิต และอุตสาหกรรมสนับสนุน มั่นใจว่า ภาคอุตสาหกรรมจะต้องก้าวเข้าสู่ยุคเศรษฐกิจไร้พรมแดน ทั้งด้านกายภาพของการเคลื่อนย้ายสินค้า การจัดเก็บ รวมทั้งบริ การ ไปจนถึงบุคลากรที่มีคล่องตัวและมีประสิทธิภาพ จากการนำองค์ความรู้ต่างๆที่ได้รับจากการเข้าร่วมโครงการฯ

ไปพัฒนาองค์กร ผู้ประกอบการควรต้องมี การบริหารจัดการกลยุทธ์ ไม่แค่เพียงในระดับองค์กร (Corporate Strategy) เท่านั้น แต่ต้องมองในภาพของซัพพลายเชน หรือ Global Supply Chain เพื่อตอบสนองกลุ่มลูกค้าที่ทุกวันนี้มีความต้องการมากกว่าสินค้า แต่ต้องการ Solution เพื่อที่จะมาตอบโจทย์การใช้ชีวิตในแต่ละรูปแบบที่แตกต่างกันไป ดังนั้น ธุรกิจควรสร้างความแข็งแรงและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันด้านต่างๆ ให้มากขึ้น เช่น การบริหารจัดการโลจิสติกส์และซัพพลายเชนที่ดี
หวังว่าท่านผู้เข้าร่วมการสัมมนาทุกท่าน จะได้รับประโยชน์ และได้ให้ความคิดเห็นและข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์สามารถ นำไปปรับเปลี่ยนวิธีคิดและกลยุทธ์ ในการพัฒนาองค์กรหรืออุตสาหกรรม พัฒนาประสิทธิภาพการบริหารจัดการโลจิสติกส์ เพื่อการลดต้นทุนและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ในภาพรวมได้ต่อไป
รศ.ดร.อภิชาต โสภาแดง หัวหน้าศูนย์ความเป็นเลิศด้านการจัดการโลจิสติกส์และโซ่อุปทาน มช. และหัวหน้าโครงการพัฒนาประสิทธิภาพการบริหารจัดการโลจิสติกส์ เพื่อการลดต้นทุนและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน กล่าวว่า มีสถานประกอบการผ่านการคัดเลือกทั้งหมด 25 ราย สามารถแบ่งตามกลุ่มอุตสาหกรรม ได้แก่ กลุ่มอุตสาหกรรมอาหารและยา 11 ราย กลุ่มอุตสาหกรรมพลาสติกและเคมี ภัณฑ์ 2 ราย กลุ่มอุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม 2 ราย และกลุ่มอุตสาหกรรมอื่น 10 ราย
อาทิ อุตสาหกรรมเซรามิค อุตสาหกรรม บรรจุภัณฑ์ อุตสาหกรรมคอนกรีต อุตสาหกรรมโลหะ เป็นต้น โดยได้ดำเนินโครงการย่อยเพื่อลดต้นทุน โลจิสติกส์และเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการโลจิสติกส์ จำนวน 50 โครงการย่อย โดยแบ่งเป็นโครงการลดต้นทุนโลจิสติกส์ จำนวน 9 โครงการ และโครงการเพิ่มประสิทธิภาพด้านโลจิสติกส์ จำนวน 41 โครงการ ภายใต้การให้คำปรึกษาอย่างใกล้ชิดจากทีมผู้เชี่ยวชาญจากศูนย์ความเป็นเลิศด้านการจัดการโลจิสติกส์ และโซ่อุปทาน มช. จนสำเร็จลุล่วงตามวัตถุประสงค์ของโครงการฯ สถานประกอบการที่เข้าร่วมโครงการโดยรวมได้กว่า 58.5 ล้านบาทต่อปี พร้อมกันนี้ได้มีการ มอบรางวัลการพัฒนาและลดต้นทุนโลจิสติกส์ รางวัลความมุ่งมั่นพัฒนาโลจิสติกส์ในองค์กร และเกียรติบัตร ให้แก่สถานประกอบการที่เข้าร่วมโครงการอีกด้วย

ที่มา http://www.chiangmainews.co.th/page/archives/738477





           ส่งไปให้เพื่อน        พิมพ์หน้านี้