หัวข้อโครงงาน             การลดเวลาการเปลี่ยนลูกรีดในการผลิตท่อเหล็ก

โดย                         นายพงศธร        บังเมฆ        รหัสนักศึกษา  540610302
                             นายภาณุพงศ์     ดวงใจหาญ   รหัสนักศึกษา  540610313
ภาควิชา                    วิศวกรรมอุตสาหการ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
อาจารย์ที่ปรึกษา          อ.ดร.อนิรุท  ไชยจารุวณิช  
ปีการศึกษา                2557

บทคัดย่อ

          การศึกษาวิจัยนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อลดเวลาการเปลี่ยนลูกรีดของท่อขนาด 4 นิ้ว ของเครื่อง YPM8 ซึ่งเป็นเครื่องจักรที่มีความสำคัญต่อการดำเนินงานของบริษัท คอทโก้เมททอลเวอร์คส จำกัด ซึ่งผู้วิจัยได้ศึกษาและปรับปรุงในส่วนของการถอด-ใส่ลูกรีด Forming และการถอด-ใส่ลูกรีด Sizing

วิธีการดำเนินงาน เริ่มจากการศึกษาขั้นตอนการทำงานของเครื่อง YPM8 จากนั้นทำการเก็บข้อมูล 3 ขั้นตอน ได้แก่ การสังเกตวิธีการปฏิบัติงานของพนักงาน การลงมือปฏิบัติงานจริงร่วมกับพนักงาน และ การบันทึกวิดีโอการปฏิบัติงาน หลังจากการเก็บข้อมูลก็ได้ทำการบันทึกข้อมูลเวลาการทำงานของพนักงานแต่ละคน จากนั้นจึงใช้แผนภูมิก้างปลาและแผนภาพต้นไม้มาวิเคราะห์ปัญหา และใช้เทคนิคด้านการศึกษาเวลาและ ECRS ในการแก้ปัญหา เมื่อสามารถหาวิธีแก้ปัญหาได้แล้ว จึงทำการอบรมและทดลองการปฏิบัติงานใหม่ และบันทึกผลการทดลอง

          จากการดำเนินการในขั้นตอนการเก็บข้อมูล พบว่าปัญหาของการปฏิบัติงานที่ทำให้การปฏิบัติงานล่าช้า เกิดจากการทำงานที่ซ้ำซ้อน สลับไปมา ขาดการเตรียมพร้อมก่อนการทำงาน อีกทั้งพนักงานยังขาดความรู้ ความชำนาญ และทักษะในการทำงานให้ง่าย ซึ่งเมื่อทำการอบรมและทดลองการปฏิบัติงานใหม่ เพื่อช่วยในการแก้ปัญหาดังกล่าว พบว่าสามารถลดปัญหาและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานได้ ดังต่อไปนี้ 1. การถอดลูกรีด Forming สามารถลดเวลาการทำงานลงได้ 40.83% และสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานเฉลี่ยของพนักงาน 5 คนรวมกันได้ 32.19%  2. การใส่ลูกรีด Forming สามารถลดเวลาการทำงานลงได้ 28.56% และสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานเฉลี่ยของพนักงาน 5 คนรวมกันได้ 12.41%  3. การถอดลูกรีด Sizing สามารถลดเวลาการทำงานลงได้ 61.34% และสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานเฉลี่ยของพนักงาน 3 คนรวมกันได้ 24.12%  4. การใส่ลูกรีด Sizing สามารถลดเวลาการทำงานลงได้ 62.91% และสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานเฉลี่ยของพนักงาน 3 คนรวมกันได้ 38.11%

จากผลการดำเนินงาน ทำให้สามารถลดความสูญเปล่าที่มากจนเกินไปในการปฏิบัติงาน และสามารถประยุกต์ใช้ความรู้ทางวิชาการที่ได้ศึกษามาใช้ในการแก้ปัญหา เพื่อก่อให้เกิดทักษะในการปฏิบัติงานที่ถูกต้องในอนาคต อีกทั้งยังเป็นแนวทางให้กับทางบริษัท หรือผู้ที่สนใจได้นำการศึกษาที่เสนอในครั้งนี้ ไปทดลองใช้ให้เกิดประสิทธิภาพมากขึ้นต่อไปในอนาคต