Home
ผลงานภาควิชา » โครงงานนักศึกษา » ปริญญาตรี » ปีการศึกษา 2557
โครงงานที่ 34 การประยุกต์ใช้ระบบอาร์เอฟไอดีเพื่อการบริหารจัดการส่วนผสมถ่านหินใน การผลิตกระแสไฟฟ้า

โครงงานที่ 34 การประยุกต์ใช้ระบบอาร์เอฟไอดีเพื่อการบริหารจัดการส่วนผสมถ่านหินใน การผลิตกระแสไฟฟ้า

หัวข้อโครงงาน             การประยุกต์ใช้ระบบอาร์เอฟไอดีเพื่อการบริหารจัดการส่วนผสมถ่านหินใน

การผลิตกระแสไฟฟ้า

โดย                         นาย แทนไทย  ประจันเขตต์  รหัสนักศึกษา 540610279
ภาควิชา                  
  วิศวกรรมอุตสาหการ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
อาจารย์ที่ปรึกษา       
   ผศ.ดร.อรรถพล สมุทคุปติ์
ปีการศึกษา             
   2557

 

บทคัดย่อ

 

โครงงานวิจัยนี้เป็นการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีอาร์เอฟไอดีจัดการส่วนผสมถ่านหินในการผลิตกระแสไฟฟ้า จากการดำเนินงานโดยเริ่มต้นจากการเก็บข้อมูลขั้นตอนการทำงาน การบันทึกข้อมูลและการตรวจสอบ พบว่าการขนถ่ายถ่านหินในปัจจุบัน ใช้พนักงานในการตรวจสอบความถูกต้องของชนิดถ่านหินที่นำมายังเครื่องโม่ ซึ่งทำให้เกิดความผิดพลาดได้ง่าย เพราะ ในแต่ละวันมีการขนถ่ายถ่านหินมากกว่า 30 รอบต่อวัน อาจทำให้พนักงานสับสนได้ ผู้วิจัยจึงมีแนวคิดที่จะปรับปรุงประสิทธิภาพการตรวจสอบในส่วนนี้  โดยใช้เทคโนโลยีอาร์เอฟไอดีมาประยุกต์ใช้ มีหลักการทำงานคือ การนำเอาคลื่นวิทยุมาเป็นคลื่นพาหะเพื่อใช้ในการสื่อสารข้อมูลระหว่างอุปกรณ์ 2 ตัว ที่เรียกว่า Tag และตัวอ่านข้อมูล  

หลังจากการเก็บข้อมูล ผู้วิจัยจึงทำการออกแบบระบบการทำงานของอาร์เอฟไอดี โดยสร้างโปรแกรมกึ่งอัตโนมัติจากโปรแกรม Netbeans ซึ่งใช้ภาษา JAVA ในการสื่อสาร โปรแกรมนี้สามารถให้พนักงานทำการระบุข้อมูลที่จำเป็นต้องมีของการโม่ในแต่ละช่วงการทำงาน นั้นคือ ชนิดของถ่านหิน TagID ระบุ TagID เข้ากับชนิดถ่านหิน เครื่องโม่ที่ใช้ ชนิดถ่านหินที่ใช้กับเครื่องโม่ชนิดนั้น และจำนวนรอบที่ต้องการของเครื่องโม่แต่ละเครื่อง เมื่อรถบรรทุกที่มี Tag ติดอยู่เดินมาทางยังบริเวณที่มีเครื่องอ่านอาร์เอฟไอดีสามารถอ่านได้ TagID ของรถบรรทุกจะถูกส่งไปยังโปรแกรมเพื่อทำการตรวจสอบความถูกต้อง โดยใช้ข้อมูลที่พนักงานทำการระบุเข้าไปเป็นเกณฑ์ในการตรวจสอบ ถ้าตรวจสอบผ่าน จะขึ้นสถานะ Pass หากตรวจสอบไม่ผ่านจะขึ้นสถานะ Fail แจ้งให้พนักงานได้ทราบ

เนื่องจากเป็นโปรแกรมนี้เป็นโปรแกรมต้นแบบที่ต้องนำเสนอให้กับทางการไฟฟ้าฝ่ายผลิตรับพิจารณา ซึ่งผู้วิจัยสามารถออกแบบการทำงานของโปรแกรมได้ มีการทดสอบใช้งานจริงกับเครื่อง RFID ที่มีในภาควิชา แต่ไม่สามารถนำมาทดสอบใช้งานจริงกับเหมืองได้เนื่องด้วยราคาของเครื่องอ่านอาร์เอฟไอดีมีราคาสูง