Home
ผลงานภาควิชา » โครงงานนักศึกษา » ปริญญาตรี » ปีการศึกษา 2557
โครงงานที่ 32 การลดผลิตภัณฑ์บกพร่องในกระบวนการผลิตผลิตภัณฑ์เรซิ่น

โครงงานที่ 32 การลดผลิตภัณฑ์บกพร่องในกระบวนการผลิตผลิตภัณฑ์เรซิ่น

หัวข้อโครงงาน             การลดผลิตภัณฑ์บกพร่องในกระบวนการผลิตผลิตภัณฑ์เรซิ่น

โดย                         นางสาวณัฐพร             ศรีนำทา          รหัสนักศึกษา     540610273

                             นางสาวนิสารัตน์          จรัสศรี            รหัสนักศึกษา     540610296

ภาควิชา                    วิศวกรรมอุตสาหการ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

อาจารย์ที่ปรึกษา          ผศ.ดร.รุ่งฉัตร     ชมภูอินไหว

ปีการศึกษา                2557

 

บทคัดย่อ

 

          โครงงานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อลดผลิตภัณฑ์บกพร่องที่เกิดขึ้นในกระบวนการผลิตผลิตภัณฑ์จากเรซิ่น งานวิจัยเริ่มจากการศึกษากระบวนการผลิตผลิตภัณฑ์ช้างลายไทยและช้างชูเล็ก ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์หลักของโรงงาน ตั้งแต่กระบวนการผสมน้ำยาจนกระทั่งได้ออกมาเป็นชิ้นงานสำเร็จรูป จากนั้นจึงได้ทำการออกแบบแผ่นตรวจสอบ (Check Sheet) ในการเก็บรวบรวมข้อมูลผลิตภัณฑ์บกพร่องที่เกิดขึ้นในแต่ละขั้นตอน เมื่อนำข้อมูลมาวิเคราะห์ด้วยแผนภูมิพาเรโตพบว่า ปัญหาจุดฟองอากาศเป็นปัญหาที่เกิดกับทั้ง 2 ผลิตภัณฑ์บ่อยที่สุด แต่อย่างไรก็ตามจากการปรึกษากับเจ้าของกิจการ พบว่าปัญหาจุดฟองอากาศจะเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นบ่อยแต่ความเสียหายไม่รุนแรง เพราะสามารถนำกลับมาซ่อมได้ ดังนั้นผู้วิจัยจึงได้ทำการประเมินความรุนแรงของปัญหาโดยใช้การประเมินความเสี่ยงเพิ่มเติมโดยมีเกณฑ์การประเมินความเสี่ยงได้แก่ ความรุนแรงของผลกระทบที่เกิด โอกาสที่จะเกิดและความสามารถในการตรวจพบ หลังจากนั้นได้สรุปและเรียงลำดับปัญหาของผลิตภัณฑ์ช้างลายไทย พบว่าปัญหาหลักได้แก่ ชิ้นส่วนแตกหักจากกระบวนการเผา, ชิ้นงานออกมาไม่สมบูรณ์และจุดฟองอากาศ ตามลำดับ ในขณะที่ผลิตภัณฑ์ช้างชูเล็กปัญหาหลักที่พบได้แก่ ชิ้นงานออกมาไม่สมบูรณ์และจุดฟองอากาศ ตามลำดับ ดังนั้นเพื่อให้ทราบถึงสาเหตุของปัญหาจึงได้ใช้แผนผังก้างปลา แล้วจึงใช้แบบฟอร์มการประเมินการวิเคราะห์สาเหตุหลัก ซึ่งพิจารณาจากปัจจัย 3 ด้านได้แก่ การเพิ่มคุณภาพ การลดค่าใช่จ่าย และความพึงพอใจของลูกค้า ซึ่งทำการประเมินร่วมกับเจ้าของกิจการ เพื่อคัดเลือกสาเหตุที่มีคะแนนสูงสุด 3 ลำดับมาดำเนินการแก้ไข โดยการทำการทดลองเพื่อศึกษา สัดส่วนการผสมน้ำยาที่เหมาะสม, วิธีการเทน้ำยาที่เหมาะสม, ระยะเวลาในการรอเรซิ่นแข็งตัว และระยะเวลาที่เหมาะสมในการเผา

 

          โดยผลการศึกษาพบว่า สัดส่วนการผสมน้ำยาที่เหมาะสมคือ การใส่ตัวเร่งปฏิกิริยา (Hardener) ที่ระดับ 1.0 มิลลิลิตร เมื่อนำไปทดลองปฏิบัติสำหรับผลิตภัณฑ์ช้างลายไทย สามารถลดจำนวนจุดฟองอากาศจาก 43.555 จุด เหลือ 14.645 จุด และสำหรับผลิตภัณฑ์ช้างชูเล็ก จำนวนจุดลดลงจาก 21.56 จุด เหลือ 7.2 จุด ส่วนวิธีการเทน้ำยาที่เหมาะสมคือ วิธีการเทน้ำยาผ่านสายยาง พบว่าจำนวนจุดฟองอากาศที่เทผ่านสายยางลดลงจาก 43.555 จุด เหลือ 29.345 จุดสำหรับผลิตภัณฑ์ช้างลายไทยและลดลงจาก 21.56 จุด เหลือ 15.59 จุด สำหรับผลิตภัณฑ์ช้างชูเล็ก  โดยค่าเฉลี่ยจุดฟองอากาศลดลงอย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ α = 0.05  สำหรับระยะเวลาในการรอเรซิ่นแข็งตัวของทั้งผลิตภัณฑ์ช้างลายไทยและช้างชูเล็กพบว่า มีสัดส่วนของผลิตภัณฑ์บกพร่องก่อนและหลังการปรับปรุงของช่วงอุณหภูมิสิ่งแวดล้อม
15-17 องศาเซลเซียส และช่วงอุณหภูมิสิ่งแวดล้อม 18-31 องศาเซลเซียส ไม่แตกต่างกัน ดังนั้นทางผู้วิจัยจึงได้แนะนำให้ทางโรงงานใช้เวลามาตรฐานของผลิตภัณฑ์ช้างลายไทยที่ 12 นาที ทั้ง 2 ช่วงอุณหภูมิ และสำหรับผลิตภัณฑ์ช้างชูเล็กที่ช่วงอุณหภูมิสิ่งแวดล้อม 15-17 องศาเซลเซียสเวลาที่เหมาะสมคือ 13 นาทีและช่วงอุณหภูมิสิ่งแวดล้อม 18-31 องศาเซลเซียสเวลาที่เหมาะสมคือ 10 นาที  เพราะเวลาที่ใช้รอน้อยที่สุด นอกจากนี้ระยะเวลาที่เหมาะสมในการการเผาของผลิตภัณฑ์ช้างลายไทยได้กำหนดมาตรฐานในการเผาที่ระยะเวลา 3 นาที ซึ่งมีสัดส่วนของผลิตภัณฑ์บกพร่องก่อนการปรับปรุงอยู่ที่ 0.06 และหลังการปรับปรุงมีสัดส่วนผลิตภัณฑ์บกพร่องอยู่ที่ 0.0167 โดยสัดส่วนผลิตภัณฑ์บกพร่องลดลงอย่างมีนัยสำคัญ

 

          ผลการวิจัยครั้งนี้ทำให้ทราบถึงสาเหตุของการเกิดผลิตภัณฑ์บกพร่อง  และแนวทางในการปรับปรุงแก้ไข เพื่อเป็นข้อเสนอแนะต่อโรงงานในการดำเนินการปรับปรุงกระบวนการผลิตและสร้างมาตรฐานในการทำงาน เพื่อลดจำนวนผลิตภัณฑ์บกพร่องในการผลิต ทั้งยังช่วยลดต้นทุนการผลิตและลดระยะเวลาในการทำงานอีกด้วย