Home
ผลงานภาควิชา » โครงงานนักศึกษา » ปริญญาตรี » ปีการศึกษา 2557
โครงงานที่ 24 การประยุกต์ใช้เทคนิคลีนและการบัญชีต้นทุนการไหลวัสดุในการเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการผลิต: กรณีศึกษาบริษัทสยามไวร์ เน็ตติ้ง จำกัด

โครงงานที่ 24 การประยุกต์ใช้เทคนิคลีนและการบัญชีต้นทุนการไหลวัสดุในการเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการผลิต: กรณีศึกษาบริษัทสยามไวร์ เน็ตติ้ง จำกัด

หัวข้อโครงงาน             การประยุกต์ใช้เทคนิคลีนและการบัญชีต้นทุนการไหลวัสดุในการเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการผลิต: กรณีศึกษาบริษัทสยามไวร์ เน็ตติ้ง จำกัด

โดย                         นายกสิณ            รัตนธรรม      รหัสนักศึกษา  540610240

นางสาวชลธิชา   สินลา             รหัสนักศึกษา  540610262

ภาควิชา                    วิศวกรรมอุตสาหการ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

อาจารย์ที่ปรึกษา          รศ.ดร.วิชัย       ฉัตรทินวัฒน์

ปีการศึกษา                 2557

 


บทคัดย่อ

งานวิจัยนี้เป็นการประยุกต์ใช้เทคนิคลีนและการวิเคราะห์บัญชีต้นทุนการไหลวัสดุในกระบวนการผลิตสายพานลำเลียง โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อหาแนวทางและปรับปรุงประสิทธิภาพในกระบวนการผลิต ด้วยเทคนิคลีนและการวิเคราะห์บัญชีต้นทุนการไหลวัสดุ เพื่อบ่งชี้กระบวนการผลิตในด้านกิจกรรมที่มีมูลค่าเพิ่มและกิจกรรมที่ไม่มีมูลค่าเพิ่ม สามารถกำจัดความสูญเปล่าและเพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการผลิต สามารถลดต้นทุนและความสูญเสียที่เกิดขึ้นในกระบวนการผลิต และทำให้ประสิทธิภาพในการผลิตเพิ่มขึ้นและต้นทุนในการผลิตลดลง รวมไปถึงการศึกษาความสูญเสียที่เกิดขึ้นในทุกกระบวนการ ซึ่งอาศัยเครื่องมือ แผนภาพพาเรโต, แผนภูมิการทำงานของคนและเครื่องจักร เป็นต้น เพื่อบ่งชี้ปัจจัยที่ส่งผลต่อความสูญเสียมากที่สุด จากนั้นจึงใช้เทคนิคลีนในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นและลดความสูญเสียที่เกิดจากวัตถุดิบ แรงงาน และพลังงาน

 

จากการศึกษาได้ใช้การวิเคราะห์บัญชีต้นทุนการไหลของวัสดุมาช่วยในการวิเคราะห์โครงสร้างต้นทุน ซึ่งทำให้สามารถสรุปต้นทุนรวมของผลิตภัณฑ์ได้ เท่ากับ 160,123.72 บาท และทางผู้วิจัยได้สรุปแนวทางในการแก้ปัญหาไว้ทั้งหมด 4 แนวทาง ต้นทุนรวมของกระบวนการผลิตสายพานลำเลียง มีค่าต้นทุนเท่ากับ 154,816.26 บาท แต่มีสัดส่วนต้นทุนของผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าเป็นลบ (Negative Product) เพิ่มมากขึ้น เนื่องจากได้มีการวิเคราะห์บัญชีต้นทุนการไหลของวัสดุโดยแบ่งเป็นประเภทของกิจกรรมที่มีมูลค่าเพิ่ม และกิจกรรมที่ไม่มีมูลค่าเพิ่ม และประสิทธิภาพการทำงานที่ได้จากการจำลองสถานการณ์ โดยโปรแกรม Arena ซึ่งจะเห็นได้ว่าแนวทางการปรับปรุง แนวทาง3 คือแนวทางปรับปรุงรวมทุกแนวทาง เป็นแนวทางการปรับปรุงที่ดีที่สุดโดยซึ่งต้นทุนรวมของกระบวนการการผลิตสายพานลดลงจากเดิม  5,307.46 บาท โดยจะคิดเป็นต้นทุนของผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าเป็นบวก (Positive Product) เท่ากับ 145,320.33 บาท และคิดเป็นต้นทุนของผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าเป็นลบ (Negative Product) เท่ากับ 9,495.94 บาท และทำให้เห็นว่ากิจกรรมที่มีมูลค่าเพิ่ม กิจกรรมที่ไม่มีมูลค่าเพิ่ม และประสิทธิภาพการทำงานมีผลทำให้เกิดเป็นปริมาณผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าลบเพิ่มขึ้น