Home
ผลงานภาควิชา » โครงงานนักศึกษา » ปริญญาตรี » ปีการศึกษา 2557
โครงงานที่ 18 การวิเคราะห์ปัจจัยในการยืดอายุลำไยสดเพื่อแปรรูปในอุตสาหกรรมลำไย อบแห้ง โดยใช้เทคนิคการออกแบบการทดลอง

โครงงานที่ 18 การวิเคราะห์ปัจจัยในการยืดอายุลำไยสดเพื่อแปรรูปในอุตสาหกรรมลำไย อบแห้ง โดยใช้เทคนิคการออกแบบการทดลอง

หัวข้อโครงงาน             การวิเคราะห์ปัจจัยในการยืดอายุลำไยสดเพื่อแปรรูปในอุตสาหกรรมลำไย                           อบแห้ง โดยใช้เทคนิคการออกแบบการทดลอง

โดย                         น.ส.กัลยภรณ์ ตันวัฒนากูล         รหัสนักศึกษา 540610248

                             น.ส.ศริยา สังข์สะนา                 รหัสนักศึกษา 540610334

ภาควิชา                    วิศวกรรมอุตสาหการ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

อาจารย์ที่ปรึกษา          ผศ.ดร.รุ่งฉัตร ชมภูอินไหว

ปีการศึกษา                2557

 

บทคัดย่อ

 

          ลำไยถือเป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญของภาคเหนือ แต่ลำไยมีอายุการเก็บรักษาที่สั้นและเสียง่าย โดยทางโรงงานลำพูน ดีเอส ฟู้ด ซึ่งประกอบกิจการแปรรูปพืชผลทางการเกษตรโดยผลิตลำไยอบแห้ง มีตู้อบจำนวนจำกัด ทำให้ในช่วงที่มีลำไยเข้ามาพร้อมกันเป็นจำนวนมาก ทางโรงงานอบลำไยไม่ทันลำไยสดที่รอก่อนเข้ากระบวนการอบจึงมีน้ำหวานไหลออกมา เมื่อนำไปอบแห้งแล้ว ทำให้ขายได้ในราคาที่ต่ำลง โครงงานวิจัยนี้จึงมีวัตถุประสงค์ เพื่อหาแนวทางในการยืดอายุลำไยสดเพื่อแปรรูปในอุตสาหกรรมลำไยอบแห้ง โดยลำไยหลังผ่านการยืดอายุยังมีคุณภาพที่ยอมรับได้ ซึ่งวิธีการยืดอายุลำไยสดนั้น จะทำโดยการแช่ลำไยในสารละลายทั้งเปลือก งานวิจัยนี้จึงได้ประยุกต์ใช้การออกแบบการทดลองเชิงแฟคทอเรียลเต็มจำนวน 2k เพื่อหาเงื่อนไขที่เหมาะสมที่สุดสำหรับกระบวนการยืดอายุลำไยสด โดยศึกษา 3 ปัจจัยได้แก่ อุณหภูมิ อัตราส่วนลำไยต่อสารละลาย และถุง ทำการทดลองทั้งหมด 4 ซ้ำ เพื่อหาค่าผลตอบที่เหมาะสมที่สุด อันได้แก่ ค่าสีของเนื้อลำไยควรมีค่าน้อยที่สุด ปริมาณของแข็งที่ละลายได้(ความหวาน) ควรมีค่ามากที่สุด และความเป็นกรดด่างมีค่ามากกว่า 5 ขึ้นไป

          ผลการวิจัยพบว่าปัจจัยที่มีผลต่อค่าผลตอบสีของเนื้อลำไยอย่างมีนัยสำคัญ ได้แก่ ปัจจัย AB คือ อันตรกิริยาร่วมระหว่างอุณหภูมิกับอัตราส่วนลำไยต่อสารละลาย และปัจจัยที่มีผลต่อผลตอบปริมาณของแข็งที่ละลายได้ (ความหวาน) ได้แก่ ปัจจัย A คือ อุณหภูมิ ,ปัจจัย C คือ ถุง และปัจจัย BC คือ อันตรกิริยาร่วมระหว่างอัตราส่วนลำไยต่อสารละลายและถุง  โดยได้สร้างสมการความสัมพันธ์เพื่อมาคำนวณหาเงื่อนไขที่เหมาะสมสำหรับแบบจำลองสุดท้าย จากการประมวลผลด้วยโปรแกรม MNITAB ได้ดังนี้ ผลตอบสีของเนื้อลำไยเท่ากับ 4.5425  และค่าผลตอบของปริมาณของแข็งที่ละลายได้(ความหวาน) เท่ากับ 19.7450 oBrix ซึ่งระดับที่เหมาะสมของแต่ละปัจจัย คือ อุณหภูมิ 5 องศาเซลเซียส อัตราส่วนลำไยต่อสารละลาย 1:1 และ ถุงเคลือบ(Al/PE) เมื่อทำการยืนยันผลการทดลองโดยการทดลองซ้ำและนำผลที่ได้มาหาค่าเฉลี่ยแล้วเปรียบเทียบกับค่าลำไยสดจากงานวิจัยเดิม พบว่าค่าเฉลี่ยในการทดลองยืนยันผลมีค่าใกล้เคียงกับค่าสมการทำนายผล ดังนั้นผลการทดลองนี้สามารถยืดอายุลำไยสดได้ตามเป้าหมาย 7 วัน และทำให้ลำไยหลังกระบวนการยืดอายุมีคุณภาพที่ยอมรับได้

          จากนั้นในส่วนของเศรษฐศาสตร์วิศวกรรม หากนำวิธีการยืดอายุลำไยสดนี้ไปใช้ ต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น 1,080,825.45 บาท แต่ก็จะทำให้มีรายได้เพิ่มขึ้น 1,355,230.55 บาท เนื่องจากสามารถขายได้ในราคา 38 บาทต่อกิโลกรัมทั้งหมด ดังนั้นจึงสรุปว่าคุ้มค่าแก่การลงทุน